ในวันที่ 8 มกราคม 2563 นายนิพนธ์ พรหมจารี ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคำนาดี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พนักงานส่วนตำบล และพนักงานจ้าง ร่วมประชุมประจำเดือนมกราคม 2563 โดยวาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมเพื่อวิเคราะห์ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปี 2562 รวมถึงการหาแนวทางในการป้องกันการทุจริตและการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนตามมาตรการของรัฐบาล การติดตามผลการดำเนินงานตามภารกิจต่าง ๆ และการมอบหมายนโยบาย

นายนิพนธ์ กล่าวว่า “จากนโยบายของรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการผลักดันให้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติและรัฐบาลได้แถลงนโยบาย 11 ด้านอันรวมถึงประเด็นเรื่อง การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่ธรรมาภิบาล และการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐและปรับปรุงและจัดให้มีกฎหมายที่ครอบคลุมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและการมีผลประโยชน์ทับซ้อนในภาครัฐทุกระดับ โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงานป.ป.ช.) ได้จัดทำยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560-2564) และพัฒนาเครื่องมือการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ครอบคลุมประเด็นการ ประเมินใน ๕ ด้านอันรวมถึงการต่อต้านการทุจริตในองค์กรซึ่งสนับสนุนให้หน่วยงานในภาครัฐมีการดำเนินการเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ดังนั้น เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตข้างต้นและนำเครื่องมือการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐสู่การปฏิบัติเพื่อเป็นกลไกสำคัญที่จะป้องกันการทุจริตโดยเฉพาะการกระทำที่เอื้อต่อการมีผลประโยชน์ทับซ้อนของเจ้าหน้าที่ในภาครัฐให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง องค์การบริหารส่วนตำบลคำนาดี จึงได้จัดประชุมบุคลากรโดยนำวาระการป้องกันและทุจริตและการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนเพื่อให้ความรู้เพื่อปลุกจิตสำนึกและสร้างค่านิยม วัฒนธรรมองค์กรแห่งความโปร่งใส ปลอดทุจริต และเพื่อสนับสนุนการป้องกันพฤติกรรมการกระทำผิดและเอื้อต่อการมีผลประโยชน์ทับซ้อนซึ่งถือเป็นการทุจริตประเภทหนึ่ง เนื่องจากเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องส่งผลให้มีการใช้อำนาจไปแทรกแซงการใช้ดุลพินิจในกระบวนการตัดสินใจและทำให้ละทิ้งคุณธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ขาดความเป็นอิสระความเป็นกลางและความเป็นธรรม ส่งผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ ทั้งทางด้านการเงินคุณภาพในการให้บริการความเป็นธรรมใน สังคมตลอดจนคุณค่าที่ดีงามรวมทั้งโอกาสในอนาคตของประชาชนส่วนรวมผู้รับบริการ”

นายนิพนธ์ ได้กล่าวถึงผลการประเมิน ITA ประจำปี 2563 ว่า “องค์การบริหารส่วนตำบลคำนาดี ได้ให้ความสำคัญกับการประเมิน ITA อย่างยิ่ง ทำให้ในปีที่ผ่านมา องค์การบริหารส่วนตำบลคำนาดี ผ่านเกณฑ์การประเมิน ITA ในระดับดีมาก (A) โดยภาพรวมได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 86.82 คะแนน สูงสุดเป็นลำดับที่ 4 ของจังหวัดบึงกาฬ จากทั้งหมด 60 อปท. เมื่อพิจารณาตามตัวชี้วัดพบว่า ตัวชี้วัดด้านการป้องกันการทุจริต ได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 100 รองลงมาคือ ตัวชี้วัดด้านคุณภาพการดำเนินงาน ได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 93.95 ตัวชี้วัดด้านประสิทธิภาพการสื่อสาร ได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 92.92 ตัวชี้วัดด้านการปรับปรุงการทำงาน ได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 90.46 ตัวชี้วัดด้านการปฏิบัติหน้าที่ ได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 82.42 ตัวชี้วัดด้านการเปิดเผยข้อมูล ได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 82.00 ตัวชี้วัดด้านการใช้อำนาจ ได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 76.10 ตัวชี้วัดด้านการแก้ไขปัญหาการทุจริต ได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 74.69 ตัวชี้วัดด้านการใช้ทรัพย์สินทางราชการ ได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 74.19 และตัวชี้วัดด้านการใช้งบประมาณ ได้คะแนนเท่ากับร้อยละ 70.67 ซึ่งคะแนนที่ได้ส่วนใหญ่มาจากการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะผ่านเว็บไซต์ของเรา ซึ่งในปีนี้ เราจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น สำหรับตัวชี้วัดใดที่เราได้น้อย ก็ต้องมาวิเคราะห์และนำมาปรับปรุงระบบการทำงานที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปเช่นกัน”

นายนิพนธ์ ยังได้เน้นย้ำให้บุคลากรปฏิบัติงานเป็นไปอย่างสุจริต เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมาย นอกจากนี้ ต้องบริการประชาชนให้เกิดความเท่าเทียม หาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านด้วย สิ่งใดที่เป็นความเสี่ยงในการทุจริตก็ให้จัดทำมาตรฐานในการปฏิบัติงาน ให้เป็นแนวทางปฏิบัติ ช่วยกันตรวจสอบตรวจตราอย่างรอบคอบ

นายนิพนธ์ ยังกล่าวถึงความสำคัญของการป้องกันการทุจริตว่า “การทุจริตไม่ได้หมายความเพียงแค่ การโกงเงิน การคอร์รัปชันเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการใช้อำนาจที่ได้มาหรือการใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่ในทางที่ไม่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหายด้วย การติดสินบนเจ้าหน้าที่ด้วยการชักชวนการเสนอ การให้ หรือการรับสินบนทั้งที่เป็นเงินและสิ่งของ การมีผลประโยชน์ทับซ้อน การฟอกเงิน การยักยอกการปกปิดข้อเท็จจริง ดังนั้น การป้องกันและหาแนวทางในการป้องกันการทุจริตและการมีผลประโยชน์ทับซ้อน คือ หน่วยราชการจะต้องการจัดทำรายงานการประเมินความเสี่ยง โดยระบุความเสี่ยงและสาเหตุการทุจริต แล้วดำเนินการปฏิบัติเพื่อป้องกันอย่างเข้มข้น ตลอดจน รักษาและปฏิบัติตามนโยบายต่อต้านการทุจริตโดยต่อเนื่อง การสร้างความเชื่อมั่นด้วยการแสดงภาวะผู้นำในการเป็นแบบอย่างของการต่อต้านการทุจริต อีกทั้งมุ่งมั่นสนับสนุนและกำกับดูแลการปฏิบัติตามนโยบายการต่อต้านการทุจริตด้วย การจัดทำแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้ทรัพย์สินของราชการที่ถูกต้อง การจัดทำประกาศข้อปฏิบัติต่าง ๆ ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ตรวจสอบได้ และการประชาสัมพันธ์ช่องทางการ ร้องเรียน การให้ข้อเสนอแนะ เพื่อให้บุคลากรและสาธารณชน รับทราบ

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้ร่วมกันสร้างมาตรฐานการปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อป้องกันการทุจริตและการมีผลประโยชน์ทับซ้อน ได้แก่ มาตรการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ มาตรการให้มีผู้ส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนร่วม มาตรการส่งเสริมความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง มาตรการจัดการเรื่องร้องเรียนทุจริต มาตรการป้องกันการรับสินบน มาตรการป้องกันการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม และมาตรการตรวจสอบการใช้ดุลยพินิจ เป็นต้น